วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ข้อดีการเรียนต่อฝรั่งเศส

ข้อดีของการ เรียนต่อประเทศฝรั่งเศส
  • ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาในระดับแนวหน้าประเทศหนึ่งของโลก มีสถาบันระดับอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียงกว่าหลายร้อยแห่ง และปริญญาบัตรที่ออกโดยสถาบันการศึกษาเหล่านี้ก็ยังเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศอีกด้วย
  • รัฐบาลฝรั่งเศสได้ใช้งบประมาณประจำปีประมาณ 20% ทุ่มให้กับการศึกษาคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 6,000 ยูโรต่อนักศึกษา 1 คน ส่วนนักศึกษาต่างชาติก็ได้รับอภิสิทธิ์นี้เช่นเดียวกับนักศึกษาฝรั่งเศส
  • กล่าวถึงวิทยาการด้านวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมและเศรษฐศาสตร์ ประเทศฝรั่งเศสก็มิได้น้อยหน้าประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ แต่อย่างใด ผลพวงของความสำเร็จทางด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม ดังจะเห็นได้จากรถไฟฟ้าความเร็วสูงหรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ TGV, บัตรแถบแม่เหล็ก (SMART CARD), จรวดอารีอาน (ARIANE), เครื่องบินแอร์บัส (AIR BUS) นอกจากนี้ประเทศฝรั่งเศสยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก อุตสาหกรรมชั้นนำของฝรั่งเศสได้แก่ RENAULT, MICHELIN, L’OREAL, TOTALFINA-ELF, FRANCE TELECOM, VIVENDI หรือ CARREFOUR เป็นต้น
  • ในฝรั่งเศส ระดับคุณภาพชีวิตสูง ดังจะเห็นได้จากระบบการขนส่งมวลชนที่สะดวกรวดเร็ว บริการสุขอนามัยที่เข้าถึงประชาชนทุกระดับและราคาไม่แพง ความปลอดภัยในชีวิตสูงและมีความเป็นอยู่ที่สงบสุข
  • ในแง่ของศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิต เนื่องจากประเทศฝรั่งเศสมีรากฐานทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่และสั่งสมมานานที่สุดในโลก วัฒนธรรมเข้ามาผสมผสานอยู่ในวิถีชีวิตของคนฝรั่งเศสอย่างแยกกันไม่ออก ดังจะเห็นได้จากงานเทศกาลทางวัฒนธรรม การแสดงต่าง ๆ แฟชั่น อาหารฝรั่งเศส และด้านภาพยนตร์ ในแต่ละปีประเทศฝรั่งเศสจะผลิตภาพยนตร์ออกมาฉายทั้งหมดประมาณ 120-150 เรื่อง ปารีสจึงได้รับฉายานามว่าเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
  • ในแง่ของภาษาฝรั่งเศส ประชากรกว่า 200 ล้านคน มากกว่า 47 ประเทศใน 5 ทวีปทั่วโลกใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ

การทักทายภาษาฝรั่งเศส

การทักทายภาษาฝรั่งเศส

(ถามทุกข์-สุข และการกล่าวอำลา)

มีด้วยกันสองแบบใหญ่ๆ คือแบบเป็นทางการ และ แบบไม่เป็นทางการ

1.การทักทายและการอำลาแบบเป็นทางการ

Sucha: Bonjour, Madame Sunee. (บงชูร์ มาดามสุนี)            สวัสดีครับ คุณสุนี
Sunee: Bonjour, Monsieur Sucha. (บงชูร์ เมอซิเออสุชา)       สวัสดีค่ะ คุณสุชา
Sucha: Comment allez-vous? (กัมมังตัลเลวู๊)                          สบายดีไหมครับ?
Sunee: Je vais bien, merci. Et vous? (เฌอเวเบียง แมร์ซี่ เอวู๊)  สบายดีค่ะ ขอบคุณค่ะ แล้วคุณหละค่ะ?
Sucha: Je vais bien, merci. (เฌอเวเบียง แมร์ซี่)                     ผมสบายดี ขอบคุณครับ
…(หลังจากคุยธุระเสร็จแล้ว)
Sucha: Au revoir, Madame Sunee. (โอ เฮรอวัวร์ มาดามสุนี)        ลาก่อนครับ คุณสุนี
Sunee: Au revoir, Monsieur Sucha. (โอ เฮรอวัวร์ เมอซิเออสุชา)   ลาก่อนค่ะ คุณสุชา

2.การทักทายและการอำลาแบบไม่เป็นทางการ(สนิทสนมกัน)

Toto: Bonjour, Jane. (บงชู เจน)          สวัสดี เจน
Jane: Bonjour, Toto. (บงชู โตโต้)        สวัสดี โตโต้
Toto: Comment vas-tu? (กัมมัง วาตู๊)    สบายดีมั้ย?
Jane: Je vais bien, merci. Et toi? (เฌอเวเบียง แมร์ซี่ เอตั๊ว)    สบายดี แล้วเธอหละ?
Toto: Très bien, merci. (แทร๊เบียง แมร์ซี่)    ดีมากๆเลยหละ ขอบใจนะ
…(หลังจากคุยธุระเสร็จแล้ว)
Toto: A bientôt. (อาเบียงโต)    แล้วเจอกันนะ
Jane: A bientôt. (อาเบียงโต)    จ้า แล้วเจอกัน

ข้อดีการเรียนต่อฝรั่งเศส

ข้อดีของการ เรียนต่อประเทศฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาในระดับแนวหน้าประเทศหนึ่งของโลก มีสถาบันระดับอุดมศึกษาและสถ...